English
ภาษาไทย
การมีรูปร่างที่กระชับและสมส่วนเป็นความใฝ่ฝันของหลายๆ คน แต่บางครั้งการออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่มากและกำจัดได้ยาก ทำให้การดูดไขมัน (Liposuction) กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างไรก็ตาม คำถามที่หลายคนสงสัยคือ "ดูดไขมันราคาเท่าไหร่?" และ "แต่ละจุดมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันอย่างไร?" บทความนี้ขอพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับราคาดูดไขมันแต่ละบริเวณ พร้อมทั้งปัจจัยที่มีผลต่อราคา เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาดูดไขมัน ราคาดูดไขมันไม่ได้ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
บริเวณที่ต้องการดูดไขมัน พื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น หน้าท้องหรือต้นขา มักมีราคาสูงกว่าจุดเล็กๆ อย่างเหนียงหรือแขน
เทคนิคที่ใช้ การดูดไขมันมีหลายวิธี เช่น VASER, BodyTite, J-Plasma, PAL (Power-Assisted Liposuction) ซึ่งแต่ละเทคนิคมีราคาต่างกัน
ปริมาณไขมันที่ต้องกำจัด ยิ่งดูดออกมาก ค่าใช้จ่ายก็อาจเพิ่มขึ้น
ชื่อเสียงและมาตรฐานของคลินิก คลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้เทคโนโลยีทันสมัย มักมีราคาสูงกว่า
ค่าดูแลหลังทำ ค่าใช้จ่ายอาจรวมถึงค่ายา ชุดกระชับสัดส่วน และค่าติดตามผล
ดูดไขมันราคาแต่ละจุดอัปเดตล่าสุด
ราคาที่เรานำเสนอเป็นราคาเฉลี่ยของคลินิกชั้นนำในปี 2024 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับคลินิกที่เลือก
ดูดไขมันเหนียง (ใต้คาง) ราคาเฉลี่ย: 25,000 - 50,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่มีเหนียงเยอะและต้องการให้กรอบหน้าชัดขึ้น
ดูดไขมันต้นแขน ราคาเฉลี่ย: 35,000 - 70,000 บาท (ทั้งสองข้าง) ทำให้แขนเรียวขึ้นและดูเฟิร์มมากขึ้น
ดูดไขมันต้นขา ราคาเฉลี่ย: 50,000 - 120,000 บาท มีทั้งการดูดไขมันเฉพาะต้นขาด้านใน, ด้านนอก หรือรอบต้นขาทั้งหมด
ดูดไขมันหน้าท้อง ราคาเฉลี่ย: 60,000 - 150,000 บาท เป็นจุดยอดนิยมเพราะหน้าท้องเป็นบริเวณที่มีไขมันสะสมง่าย
ดูดไขมันเอวและเอวเอส (Love Handles) ราคาเฉลี่ย: 45,000 - 90,000 บาท เหมาะสำหรับคนที่อยากได้เอวคอดชัดขึ้น
ดูดไขมันหลัง ราคาเฉลี่ย: 40,000 - 90,000 บาท ช่วยให้แผ่นหลังดูเนียนเรียบขึ้น
ดูดไขมันสะโพกและก้น ราคาเฉลี่ย: 50,000 - 120,000 บาท ช่วยกระชับและปรับรูปทรงสะโพกให้สมดุล
ดูดไขมันทั้งตัว ราคาเฉลี่ย: 200,000 - 500,000 บาท แพ็กเกจนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปร่างทั้งตัว
เทคนิคดูดไขมันที่นิยมและราคาต่างกันอย่างไร?
VASER (เวเซอร์) ใช้คลื่นเสียง Ultrasound สลายไขมันก่อนดูดออก ราคาเริ่มต้น: 30,000 - 150,000 บาท
BodyTite (บอดี้ไทท์) ใช้คลื่นความถี่วิทยุ (RF) เพื่อให้ผิวกระชับหลังดูด ราคาเริ่มต้น: 40,000 - 180,000 บาท
J-Plasma (เจ-พลาสมา) เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผิวตึงขึ้นหลังดูดไขมัน ราคาเริ่มต้น: 50,000 - 200,000 บาท
PAL (Power-Assisted Liposuction) ใช้เครื่องมือช่วยดูดไขมันได้ละเอียดขึ้น ราคาเริ่มต้น: 35,000 - 120,000 บาท
คำแนะนำก่อนตัดสินใจดูดไขมัน
เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบใบอนุญาตและรีวิวจากผู้ใช้จริง
สอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดล่วงหน้า เช่น ค่ายา, ค่าดูแลหลังทำ
เตรียมร่างกายก่อนทำ งดบุหรี่, แอลกอฮอล์ และแจ้งประวัติสุขภาพกับแพทย์
ดูแลตัวเองหลังทำ ใส่ชุดกระชับสัดส่วน และหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก
การลงทุนเพื่อหุ่นเป๊ะคุ้มค่าหรือไม่?
การดูดไขมันเป็นทางเลือกที่ช่วยปรับรูปร่างให้ดูสมส่วนขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ราคาจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการดูด เทคนิคที่ใช้ และมาตรฐานของคลินิก การเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือทันสมัยเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่ากับการลงทุน
หากคุณกำลังพิจารณาดูดไขมัน อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และอยู่ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน Issavee Clinic คลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน พร้อมเป็นตัวเลือกที่ช่วยคุณให้มีหุ่นที่สวยงาม มั่นใจ ติดตามผลการรักษาอยู่สม่ำเสมอ เพราะเราอยากให้คุณมีรูปร่างที่ดีในทุกๆ วันค่ะ