วิธีปลูกผมถาวรที่คุณต้องรู้

การปลูกผม เป็นอีกหนึ่งหลากหลายรูปแบบของการทำศัลยกรรมที่มีไว้เพื่อแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน ซึ่งโดยส่วนใหญ่วิธีในการปลูกผมถาวรนั้น จะมีการใช้ผมของผู้เข้ารับการปลูกผมมาใช้ในการสกัดและปลูกถ่ายเซลล์ผมลงบนหนังศรีษะ โดยหากเราเป็นคนที่มีปัญหา ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน อีกวิธีที่จะช่วยหยุดปัญหานี้ได้คือ ปลูกผม แต่ก็คงอาจจะมีคำถามเกิดขึ้นกันอยู่ไม่มากก็น้อยว่า ในการปลูกผมถาวรที่คลินิกทำนั้นมีวิธีอะไรบ้าง แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร โดยในวันนี้เราจะมาหาคำตอบให้ฟังกันครับ

1. การตัดหนังศีรษะ (FUT: Follicular Unit Transplantation) เป็นเทคนิคแรกที่หลายคลินิกปลูกผมนิยมทำ เป็นการผ่าตัดขนาดเล็กแพทย์จะทำการผ่าตัดหนังศีรษะที่อยู่บริเวณท้ายทอย จากนั้นจะเย็บแผลประกบกัน ในรายที่ปลูกผมจำนวนมาก จะใช้ลวดในการเย็บเพื่อช่วยประกบแผล จากนั้นก็จะนำผมที่ได้มาทำการแบ่งเป็นกอ และจะนำกอผมนั้น ไปปลูกที่บริเวณที่ต้องการ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เห็นรอยแผลได้ชัด และเป็นแนวยาวตามรอยผ่าตัด

2. การเจาะกอผม (FUE: Follicular Unit Extraction) เป็นวิธีที่พัฒนาในรุ่นต่อมาของการปลูกผม โดยการใช้เครื่องมือที่มีปลายเหมือนหลอดขนาดเล็ก ทำการวางครอมกอผม ทำการเจาะกดทีละกอ จากนั้นก็ใช้คีมปลายแหลม คีบผมขึ้นมาพร้อมเซลล์รากผม แล้วนำไปปลูกผมในบริเวณที่ต้องการ ข้อดีคือ ไม่ต้องผ่าตัด

3. แขนกลปลูกผม (Robot Hair Transplant) เป็นการพัฒนาที่ต่อยอดขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาด้านระยะเวลา และลดขนาดของแผลที่เกิดจากการปลูกผมในรูปแบบดั้งเดิม ซึ่งจะมีเจ้าแขนกลจะมาช่วยในการเจาะกอผม ควบคู่กับทีมปลูกผม โดยวิธีจะทำให้รอยแผลนั้น หายสนิทใน 1-2 วัน และไม่มีบาดแผลที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้หลายคนได้มีความเข้าใจกับเรื่องของวิธีการปลูกผมในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น และหากใครที่กำลังมองหาวิธีในการปลูกผมแบบง่าย ที่ไม่ต้องกลัวเจ็บ หรือมีรอยแผล และที่สำคัญคือ ไม่ต้องผ่าตัด เราขอแนะนำ ปลูกผมที่ Nida เทคโนโลยีการปลูกผมถาวรที่สามารถปลูกผมถาวรพร้อมรักษาผมร่วงได้ ด้วยการใช้เซลล์รากผมของตัวเอง โดยไม่ต้องผ่าตัด ปลอดภัยและได้ผมที่เป็นธรรมชาติ ขั้นตอนการทำเพียงแค่สะกิดรากผมของคุณเอง ด้วย technology ที่เป็นลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวใน Europe “Regenera Autiva” สามารถสกัดเซลล์รากผมที่ดีที่บริสุทธิ์ และแข็งแรงที่คงความมีชีวิตได้ถึง 92%