ปลูกผมถาวร เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาผมร่วงบนหนังศีรษะเพื่อการแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน รักษาผมร่วง ผมบาง ทำทรงผมทรงไหนก็ดูไม่ดีไม่ถูกใจซักที การปลูกผมโดยส่วนใหญ่แล้วจะนำเอาผมของตัวผู้เข้ารับการปลูกผมมาใช้ในการปลูกผม การปลูกผมจะต้องทำภายในสถานพยาบาล และใช้ยาชาเฉพาะที่ในขณะที่ทำการปลูกผม
วิธีการปลูกผมนั้นแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ
1.การปลูกผมแบบตัดหนังศีรษะ (Follicular Unit Strip Surgery: FUSS) เป็นวิธีการปลูกผมรักษาผมร่วงที่นำหนังศีรษะบริเวณที่มีผมขึ้นมาเย็บติดกับหนังศีรษะบริเวณที่ไม่มีผมขึ้น โดยบริเวณท้ายทอยที่ได้ทำการผ่าตัดเอาหนังศีรษะออกมาจะถูกเย็บปิดแผลและกลายเป็นแผลเป็นต่อไป
2.การปลูกผมถาวรแบบไม่ผ่าตัด (Follicular Unit Extraction: FUE) เป็นวิธีการปลูกผมที่นำเอากอผมจากบริเวณหนังศีรษะของผู้เข้าทำการรับการปลูกผม ฝังลงบนหนังศีรษะ โดยวิธีนี้จะแบ่งออกเป็นอีก 2 ประเภทย่อย ๆ ได้แก่
• การปลูกถาวรโดยการใช้รากผมในปริมาณที่มาก (Slit Grafts) โดยที่จะใช้รากผมโดยประมาณ 4-10 รากต่อหลุมผมในแต่ละหลุมที่นำผมมาปลูก
• การปลูกผมถาวรโดยใช้ปริมาณผมน้อย (Micro-Grafts) ใช้รากผมเพียง 1-2 รากต่อหลุมผมในแต่ละหลุม
ในปัจจุบัน การปลูกผมเพื่อรักษาผมร่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการปลูกผมถาวรแบบไม่ผ่าตัด (FUE) เนื่องจากเป็นวิธีที่ได้ผลดี อีกทั้งยังไม่ทำให้เป็นแผลเป็นจากการปลูกผมอีกด้วย หากต้องการปลูกผมถาวรแบบไม่ต้องผ่าตัด ที่ Nida Esth’ มี
สุดยอดเทคโนโลยีปลูกผม Ur cell Hair Micro Transplant+ ที่จะช่วยทำให้คุณมีผมดกหนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด